Amabrush แปรงสีฟันที่ช่วยให้ฟันสะอาดหมดจดได้ภายใน 10 วินาที

เทคโนโลยีแปรงสีฟัน

Toothbrush technology

https://daily.rabbit.co.th/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99-amabrush

      THAI

                การทำความสะอาดในช่องปากนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และแน่นอนว่าอีกหนึ่งกิจวัตรประจำวันของทุกคนก็คือการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง แต่บางครั้งการทำความสะอาดฟันนอกจากแปรงฟันแล้ว อาจจะมีการใช้ไหมขัดฟันหรือน้ำยาบ้วนปากอีก ซึ่งมันอาจจะเสียเวลาไปบ้าง ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับ Amabrush แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบอัตโนมัติชนิดแรกของโลกที่สามารถทำความสะอาดฟันของคุณได้หมดจดจนครบทุกซี่ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น วิธีใช้เจ้า Amabrush ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่กดปุ่มเริ่มต้นการทำงานแค่ครั้งเดียว จากนั้นก็ใส่เข้าไปในปาก แล้วมันก็จะเริ่มทำความสะอาดฟันทุกซี่ในปากของเราให้ขาวสะอาดหมดจด แปรงสีฟันนี้ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม และแตกต่างจากแปรงสีฟันที่เราใช้กันเป็นประจำทุกวันอย่างสิ้นเชิง เพราะว่ามันมาในรูปแบบแปรงสีฟันอัตโนมัติ และถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วน Mouthpiece เป็นที่ครอบฟันที่มีรูปทรงโค้งตามรูปฟัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวแปรง นอกจากนี้ยังมีขนแปรงที่ทำจากซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีความนุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือก โดยมันจะทำมุม 45 องศากับฟัน แถมยังเคลือบสารป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 99.99% อีกด้วย ซึ่งมันสามารถใช้ได้ 3-6 เดือน แล้วค่อยเปลี่ยนใหม่ และที่สำคัญคือเจ้าแปรงสีฟันตัวนี้ ยังสามารถกระจายยาสีฟันได้อย่างทั่วถึง แม้แต่ซอกเล็กๆ ก็ยังเข้าไปทำความสะอาดได้อย่างสบายๆ ขณะเดียวกันอีกส่วนที่เป็น Handpiece ก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะมันมีหน้าที่สั่งงานให้เจ้า Mouthpiece ทำงาน โดยสามารถสั่นความแรงเทียบเท่ากับ 9.5G ทำให้ขนแปรงขยับขึ้นลงได้อย่างรวดเร็ว และมันถูกออกแบบให้มีลักษณะกลมคล้ายลูกบอล โดยภายในจะมีช่องแคปซูลใส่ยาสีฟัน มอเตอร์ และแบตเตอรี่ที่ชาร์จเพียง 1 ครั้ง ก็สามารถใช้แปรงฟันได้ถึง 28 ครั้งเลยทีเดียว 

                อ้างอิง https://daily.rabbit.co.th/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99-amabrush

      ENGLISH

                 Amabrush is the world's first, fully automatic toothbrush. This patent pending device brushes all your teeth at once, fully automatic, and finishes in just ten seconds. All you have to do is press a single button, wait ten seconds, and you’ll have perfectly clean teeth!  We analyzed over 2,000 different jaws from adult females and males. The small differencebetween both genders is smoothed out by the flexible material of the mouthpiece. The used material has the characteristic to fit every jaw with no abnormal teeth displacements.  Amabrush can brush your teeth in just 10 seconds, because all your teeth are cleaned simultaneously. Even in this 10 seconds, every tooth surface is cleaned longer compared with common toothbrushes. If you brush your teeth for the recommended 120 seconds with a regular toothbrush (manual or electric), every surface gets brushed for just 1.25 seconds (given the fact that you have 32 teeth and every teeth has three surfaces). Amabrush brushes all your surfaces for whole 10 seconds. This means: every tooth surface gets brushed 8x longer and the total toothbrushing duration is 12x quicker.

             อ้างอิง https://www.kickstarter.com/projects/1071673943/amabrush-worlds-first-automatic-toothbrush

คำถาม  

     1. แปรงสีฟันชนิดนี้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างไร

    ตอบ  พกพาได้สะดวก ใช้ง่าย และทำความสะได้รวดเร็ว

    

Q&A

    Q: How can this type of toothbrush daily use?

     A: Portable and easy to clean.

 สรุป
      แปรงสีฟันชนิดนี้ เป็นแปรงสีฟันอัตโนมัติ พกพาได้สะดวก เพียงใช้เวลา10วินาทีในการทำความสะอาดฟัน ใช้งานง่าย เคลือบป้องกันแบคทีเรียได้ 99% มีอายุการใช้งาน 3-6 เดือน 

ชาร์จแบต 1 ครั้ง ใช้แปรงฟันได้ 28 ครั้ง

chapter 2

      1   Explain the meaning of data.
       -News Facts about people Items or events that are available in the form of numbers, symbols,                      images. Meaningful (2) The term "data" refers to facts or things that hold or admit to be factual. For              use as a basis for deducting the truth or calculation
             จงอธิบายความหมายของข้อมูล
        -ข่าวสาร เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของหรือเหตุการณ์ที่มีอยู่ในรูปของตัวเลข                    ภาษา ภาพ สัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีความหมายเฉพาะตัว ซึ่งยังไม่มีการประมวลไม่เกี่ยวกับการนำ            ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ไพโรจน์ คชชา, 2542) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน                  (2525) ให้ความหมายของ ข้อมูล(Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่ถือหรือยอมรับว่าเป็น              ข้อเท็จจริง สำหรับใช้เป็นหลักอนุมานหาความจริงหรือ การคำนวณ

       2   Explain the meaning of  information.
         - Information refers to information that is useful to human life. Information is derived from                              information. Through the system of processing, calculating, analyzing and interpreting the text. The                  system is based on academic principles. Can be used as such. Satellite communications or signaling                systems. Building a Satellite Computer Network Ticketing, ATM, etc.
              จงอธิบายความหมายของสารสนเทศ
         -สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สารสนเทศ เกิดจาก            การนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความ                อย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เช่น ระบบสื่อสารผ่าน                        ดาวเทียมหรือสัญญาณระบบต่างๆ การสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบดาวเทียม การจองตั๋ว              เครื่องบิน การกดเงินจาก ATM เป็นต้น
     
      3    Explain the meaning of  knowledge.
      - Knowledge is information that processes the thinking process. Link to other knowledge until it is              understood and used to make conclusions and decisions in different situations without defining the time.
              จงอธิบายความหมายของความรู้
        - ความรู้ หมายถึง สารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคิดเปรียบเทียบ เชื่อมโยงกับความรู้อื่นจนเกิดเป็น                    ความเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ในการสรุปและตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆโดยไม่กำหนดช่วงเวลา

        4     How many type the characteristics of good information?
         - 4
          ลักษณะของข้อมูลที่ดีมีกี่ประเภท
            - 4

      5     

Ref : https://sites.google.com/site/programmingm42/-rhas-theiym-psuedo-code

การเขียนรหัสเทียม

    

       

รหัสเทียม (Pseudocode) คือ การเขียนโปรแกรมในรูปแบบภาษาอังกฤษที่มีขั้นตอนและรูปแบบแน่นอนกะทัดรัด และมองดูคล้ายภาษาระดับสูงที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งไม่เจาะจงภาษาใดภาษาหนึ่ง

ประโยชน์ของซูโดโค้ด

            • เป็นเครื่องมือในการกำหนดโครงร่างกระบวนการทำงานของการเขียนโปรแกรมแต่ละโปรแกรม

            • เป็นต้นแบบในการทบทวน ปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาโปรแกรมของโปรแกรมเมอร์ และนักวิเคราะห์ระบบ

            • เป็นตัวกำหนดงานเขียนโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมเมอร์นำไปพัฒนาเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อสั่งให้            คอมพิวเตอร์ทำงานตามกระบวนการที่ได้จำลองกระบวนการจริงไว้ในซูโดโค้ด

วิธีการเขียนซูโดโค้ด

            • ประโยคคำสั่ง (Statement) จะอยูในรูปแบบของภาษาอังกฤษอย่างง่าย

            • ในหนึ่งบรรทัด ให้เขียนประโยคคำสั่งเพียงคำสั่งเดียว

            • ควรใช้ย่อหน้า เพื่อแยกคำเฉพาะ (Keywords)  ได้ชัดเจน รวมถึงจัดโครงสร้างการควบคุมให้เป็นสัดส่วน ซึ่งช่วยให้อ่านโค้ดได้ง่าย

            • แต่ละประโยคคำสั่งให้เขียนลำดับจากบนลงลาง โดยมีทางเข้าเพียงทางเดียว และมีทางออกทางเดียวเท่านั้น

            • กลุ่มของประโยคคำสั่งต่างๆ อาจจัดรวมกลุ่มเข้าด้วยกันในรูปแบบของโมดูล แต่ต้องมีการกำหนดชื่่อของโมดูลด้วย เพื่อให้สามารถเรียกใช้งานโมดูลนั้นได้

ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม Pseudo Code

            Algorithm Problem_1

            Variables : mLoop, Sum, testScore, average

            Begin

                    Input mLoop

                    Sum = 0

                    For I = 1 to mLoop

                            Input testScore

                            Sum = Sum + testScore

                    Next

                    average = Sum / mLoop

                    Print average

            End Problem_1

รูปแบบการเขียน Pseudo Code

        1. การกำหนดค่า และการคำนวณ

                name = expression

                name คือ ชื่อตัวแปรที่ใช้สำหรับเก็บค่า

                expression คือ ค่าข้อมูลหรือนิพจน์

ตัวอย่าง

        salary = 1000

        overTime = 2500

        tax = 125

        Income = salary + overTime - tag

        

        2. การอ่าน/รับข้อมูล

                การอ่านข้อมูลสามารถใช้คำสั่ง READ, INPUT หรือ GET ได้ โดย

                        Read variables_1 ,variables_2, variables_3

                        Input variables_1 ,variables_2, variables_3

                        Get variables_1 ,variables_2, variables_3

                READ ใช้สำหรับการอ่านค่าที่มีอยู่แล้ว มาเก็บไว้ในตัวแปร เช่น การอ่านข้อมูลจากไฟล์ โดยจะทำงานร่วมกับ OPEN (การเปิดไฟล์)

                INPUT และ GET ใช้สาำหรับการรับค่าข้อมูลผ่านทางแป้นพิมพ์

                Variable คือ ตัวแปรที่ใช้เก็บข้อมูลที่อ่านหรือรับเข้ามา ซึ่งสามารถกำหนดได้ ตามจำนวนตัวแปรที่ต้องการ โดยใช้เครื่องหมาย “,” คั่นระหว่างชื่อตัวแปร

ตัวอย่าง

        Input a, b, c

        Answer = a + b + c

        Get current_date

        expire_date = current_date + 120

        

        Open student_file

        Read Id, Name, Address, Sex

        3. การแสดงผลข้อมูล

                การแสดงผลข้อมูลสามารถใช้คำสั่ง Print , Prompt, Write

                    print  variables_1 ,variables_2, variables_3

                    prompt variables_1 ,variables_2, variables_3

                    write variables_1 ,variables_2, variables_3

                PRINT และ PROMPT ใช้สำหรับการพิมพ์ค่าข้อมูล หรือข้อความ

                WRITE ใช้สำหรับการบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มข้อมูล

ตัวอย่าง

        Prompt " Enter 3 Value ==> "

        Input Value1 , Value2 , Value3

        Sum = Value1 + Value2 + Value3

        Print Sum

        Open Student _file

        Input Id, Name, Address, Sex

        Write Id, Name, Address, Sex

        4. การกำหนดเงื่อนไข

                If < condition > Then

                        Activity 1

                Else 

                        Activity 2

                Endif

                <condition> คือ เงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งหากเงื่อนไขเป็นจริง จะทำกิจกรรมหลัง THEN (activity1)  แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ ก็จะทำกิจกรรมหลัง ELSE (activity2)

ตัวอย่าง

         IF sex = “M” THEN

                male = male + 1

         ELSE 

                female = female + 1

         ENDIF

         IF score >= 80

                grade = “A”

         ELSEIF score >= 70

                grade = “B”

         ELSEIF score >= 60

                grade = “C”

         ELSEIF score >= 50

                grade = “D”

         ELSE

                grade = “F”

         ENDIF

            5. ในกรณีที่มีหลายเงื่อนไข 

                    การใช้ IF อาจทาให้ตรวจสอบโปรแกรมได้ยาก สามารถใช้คาสั่ง CASE …. END CASE แทนได้

ตัวอย่าง

            CASE score OF

            >= 80 : grade = “A”

            >= 70 : grade = “B”

            >= 60 : grade = “C”

            < 60 : grade = “F”

            ENDCASE

            6. การทํางานเป็นรอบ (Loop)

                        การทางานเป็นรอบด้วยลูป WHILE … ENDWHILE

                        WHILE<condition>

                        activity1

                        activity2

                        activity3

                        ENDWHILE

            การทำงานของลูป WHILE จะมีการตรวจสอบเงื่อนไขก่อน โดยหากเงื่อนไขเป็นจริง จะทำกิจกรรมภายในลูปซ้ำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเงื่อนไขเป็นเท็จ ก็จะออกจากลูปแต่หากเงื่อนไขที่ตรวจสอบครั้งแรกเป็นเท็จ ก็จะไม่มีการทากิจกรรมภายในลูปเลย

ตัวอย่าง

                    num = 1

                    WHILE num <= 20

                                PRINT num

                                num = num + 1

                    ENDWHILE

                    PRINT “STOP RUN”

            7. การทำงานเป็นรอบ (Loop)

                    การทำงานเป็นรอบด้วยลูป DO … UNTIL

                    DO

                        activity1

                        activity2

                        activity3

                    UNTIL <condition>

            การทำงานของลูป DO … UNTIL จะทำกิจกรรมภายในลูปก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นจะทาการตรวจเงื่อนไข โดยจะวนซ้าไปเรื่อยๆ จนกว่าเงื่อนไขจะเป็นจริง จึงหลุดออกจากลูป และถึงแม้เงื่อนไขที่ตรวจสอบเป็นจริงตั้งแต่แรก แต่ลูป DO…UNTIL ก็จะมีการทากิจกรรมภายในลูปอย่างน้อยหนึ่งรอบเสมอ

ตัวอย่าง

                    num = 0

                    DO

                            PRINT “HELLO…”

                            num = num + 1

                    UNTIL num > 20

            8. การทํางานเป็นรอบ (Loop)

                        การทางานเป็นรอบด้วยลูป FOR … NEXT

                    FOR i=1 to n

                                activity1

                                activity2

                                activity3

                    Next

รู้จักกัน ด้วยชั่วโมงโค้ดของเฟื่อง